ไฟฉาย 39 : อยากเป็นวิทยากร ต้องทำอย่างไร
สวัสดีครับ
ยินดีต้อนรับไฟฉายฉบับที่ 39 ครับ
ฉบับนี้เน้นเรื่องนวัตกรรมและการเรียนรู้เป็นพิเศษ ถ้าคุณมีอีบุ๊คแจกฟรี ช่องยูทูบ เพจ หรือเว็บไซต์ที่อยากเผยแพร่ กรุณาส่งข้อมูลมาให้ผม เพื่อที่จะได้ประชาสัมพันธ์ในไฟฉายครับ
บทความเกี่ยวกับนักประดิษฐ์
คุณคงเคยเห็นเครื่องดูดฝุ่นหรือพัดลมที่ไม่มีใบพัดยี่ห้อไดสัน (Dyson) ขายในห้างสรรพสินค้า ซึ่งไดสันมาจากชื่อของนักประดิษฐ์ชาวอังกฤษคือ เจมส์ ไดสัน ซึ่งผมขอยกย่องให้เขาเปรียบเสมือนโธมัส เอดิสันในยุคของเรา เพราะสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงหลายอย่าง
แต่กว่าที่เจมส์ ไดสันจะประสบความสำเร็จ มีผลิตภัณฑ์ที่เราเห็นในชีวิตประจำวันแบบนี้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ถูกปฏิเสธ เกือบล้มละลาย โดนขโมยไอเดีย
บทความเรื่อง เจมส์ ไดสัน: คิดค้นเครื่องดูดฝุ่นในตำนาน จากความพยายาม 5,127 ครั้ง เล่าชีวิตของเจมส์ ไดสันครับ
อีบุ๊คแจกฟรี
เครื่องมือในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมมีมากมาย นอกจาก Design Thinking ที่กำลังโด่งดังในขณะนี้แล้ว ยังมีเครื่องมือหาไอเดียอื่น ๆ เช่น Mind Map, TRIZ, Brainwriting
อาจารย์ศศิมา สุขสว่างหรืออาจารย์เก๋ ได้รวบรวม 29 เครื่องมือในการพัฒนานวัตกรรมเป็นอีบุ๊คชื่อ 29 Creative & Innovation Toolkits ที่ผู้สนใจดาวน์โหลดอ่านได้ฟรีครับ
บางเทคนิคในอีบุ๊คเล่มนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยทราบมาก่อน ถ้าคุณสนใจเรื่องความคิดสร้างสรรค์หรือนวัตกรรม ลองดาวน์โหลดมาศึกษาครับ
ช่องในยูทูบเกี่ยวกับวิทยากร
คำถามหนึ่งที่ผมได้ยินเป็นประจำคือ วิทยากรแตกต่างจากครู อาจารย์อย่างไร วิทยากรต้องพูดเก่ง พูดตลกหรือเปล่า หรือเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มีเพื่อนถามผมว่า ควรลาออกจากงานประจำ มาทำงานเป็นวิทยากรเต็มเวลาดีไหม
ถ้าคุณสนใจอยากเป็นวิทยากรหรืออยากทราบเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับการเป็นวิทยากร ขอแนะนำช่องในยูทูบชื่อ ChaiyosPUN ของอาจารย์ไชยยศ ปั้นสกุลไชย
อาจารย์ไชยยศทำคลิปสั้น ๆ ตอบคำถามที่คนมักถามบ่อยเกี่ยวกับการเป็นวิทยากร ซึ่งผมดูแล้ว ได้ความรู้มาก และอธิบายสั้นกระชับอย่างชัดเจน เช่น วิทยากรนำเนื้อหาจากที่ไหนมาสอน, วิทยากร โค้ช และฟาแตกต่างกันอย่างไร, วิทยากรกำหนดค่าตอบแทนอย่างไร เป็นต้น
ไฮไลท์จากหนังสือ
“เป้าหมายในการเรียนรู้ของคุณไม่ใช่การเป็นโปรแกรมเมอร์เก่งที่สุดในโลก แต่เป็นโปรแกรมเมอร์ที่เก่งกว่าตัวคุณเมื่อวานนี้” จากหนังสือ Hello, Startup ของ Yevgeniy Brikman
ถึงแม้ว่าข้อความข้างบนเกี่ยวกับการเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่ผมคิดว่า แนวคิดนี้ก็เหมาะกับการเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ได้เช่นกัน
เมื่อใดก็ตามที่เราเปรียบเทียบกับคนอื่นว่า เก่งกว่า แย่กว่า เก่งที่สุด หรือไม่เอาไหนเลย เราจะเกิดความเครียด ความวิตกกังวล
แต่ถ้าเราไม่สนใจเปรียบเทียบกับคนอื่น สนใจแค่ว่า ขอให้เราเก่งกว่าหรือดีกว่าตัวเราเมื่อวานนี้ การคิดแบบนี้จะทำให้เรามีความทุกข์น้อย เพราะโฟกัสที่การพัฒนาตัวเองเป็นหลักครับ