ไฟฉาย 51 : จะเกิดอะไรขึ้นถ้า ...
สวัสดีครับ
ผมเคยไปร้านหนังสือเพื่อหาหนังสือที่ตัวเองอยากได้ แต่ไม่พบเล่มที่ต้องการ
เมื่อกวาดสายตา ดูเล่มอื่น ๆ ที่อยู่บนหิ้ง กลับพบบางเล่มที่ถูกใจหรือดีกว่าเล่มที่อยากได้ซะอีก
นอกจากเรื่องหนังสือแล้ว ก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นกับผมหลายครั้ง
ดังนั้น อย่าจดจ่อกับสิ่งที่ต้องการเพียงอย่างเดียว ลองเปิดตา เปิดใจ มองรอบ ๆ บ้าง
อาจพบสิ่งที่ดีกว่าแบบคาดไม่ถึงครับ
กิจกรรม “จะเกิดอะไรขึ้น”
วันพุธที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ผมมีกิจกรรมใหม่ในวิชา Innovative Thinking คือ นิสิตจุฬาฯ ที่เรียนวิชานี้จับกลุ่มและตั้งคำถาม "จะเกิดอะไรขึ้น" เกี่ยวกับจุฬาฯ
จากนั้นเขียนผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบของเหตุการณ์นั้น และเขียนพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับผลกระทบ 1 เรื่อง
รูปข้างล่างคือผลงานของนิสิตกลุ่มหนึ่งที่ตั้งคำถามว่า “จะเกิดอะไรขึ้นถ้านิสิตจุฬาฯ ทุกคนมาเรียนรวมกัน”
ไฮไลท์จากหนังสือ
“อีกเหตุผลที่นวัตกรใช้ประโยชน์จากโอกาสที่คนอื่นไม่ได้คิด คือ การทำตามความอยากรู้อยากเห็นสม่ำเสมอ ซึ่งนำพวกเขาไปสู่ประสบการณ์ใหม่ สถานที่ใหม่ ผู้คนใหม่” จาก Fail Fast, Fail Often ของ Ryan Babineaux และ John Krumboltz
เจฟฟ์ เบโซสสังเกตว่า อินเทอร์เน็ตมีการเติบโตขึ้นอย่างมาก ทำให้เกิดไอเดียอยากทำร้านหนังสือออนไลน์ จนกลายเป็น Amazon
ฮาวเวิร์ด ชูลท์ซส้งเกตร้านกาแฟในอิตาลีว่า มีรูปแบบที่แตกต่างจากร้านกาแฟในอเมริกา ทำให้เกิดไอเดียปรับปรุงร้าน Starbucks จนกลายเป็นร้านกาแฟดังที่สุดในโลก
ถ้าคุณอ่านประวัติของนวัตกรที่มีชื่อเสียงในยุคนี้ จะเห็นว่า ไอเดียหรือนวัตกรรมที่โด่งดังแพร่หลายในยุคนี้มีกำเนิดง่าย ๆ ที่ผู้คิดค้นเองก็ไม่ได้คาดหวังว่า จะประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม พวกเขาเพียงแค่สังเกต ทดลอง ทำตามความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น
ลองใช้ความสงสัยใคร่รู้ ความอยากรู้อยากเห็นของคุณเป็นตัวนำทางไปสู่ไอเดียใหม่หรือประสบการณ์ใหม่บ้างครับ